LINE : @JUAD888
×
เมื่ออยากเล่นคาสิโน ให้นึกถึง JUAD888 เว็บพนันออนไลน์ ที่มีเกมส์คาสิโนจากทุกค่าย รวมเอามาไว้ให้เล่นในเว็บเดียว SA GAMING , SEXY GAMING , PG , PRETTY GAMING และ GAMEPLAY อยากเล่นคาสิโนออนไลน์ เซ็กซี่บาคาร่า สล็อต ไฮโล เสือมังกร เกมส์ยิงปลา หรือเกมส์พนันอื่นๆ เรามีทีมงานคอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง

เสือมังกรออนไลน์ กับสูตรเดินเงินที่ไม่ควรพลาด

            ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบเล่นไพ่มาก ๆ แต่ไม่อยากจะมาเสียเวลาหรือเครียดไปกับการวางเดิมพันอย่างพวกไพ่ โป๊กเกอร์ หรือแบล็คแจ็ค หรือแม้แต่ บาคาร่า ก็ยังทำให้คุณรู้สึกว่าเหมือนถูกโกงทุกครั้งที่มีการจั่วไพ่ใบที่สามแล้วล่ะก็ เสือมังกร อาจเป็นเกมส์ไพ่ที่คุณกำลังมองหาอยู่ก็ได้ ด้วยความเร็ว ความไว ไม่ต้องคิดเยอะ ทำให้ไพ่นี้ได้รับความนิยมมากในคาสิโนออนไลน์ไม่แพ้ไพ่บาคาร่า เรียกได้ว่าไปที่ไหนก็ต้องมี วันนี้เราจะไปดูกันว่ามันเป็นยังไง เล่นยากแค่ไหน อัตราจ่ายดีหรือไม่ และใช้สูตรเดินเงินแบบไหนถึงได้กำไร บทความนี้มีคำตอบให้แล้วครับ

เสือมังกรออนไลน์ เกมส์ไพ่ที่ไวที่สุดในโลก

คำกล่าวนี้คงไม่ดูเกินจริงแน่ เพราะตั้งแต่เล่นไพ่มาผมเองก็ยังไม่เคยเห็นเกมส์ไพ่อะไรที่ใช้เวลาจบเกมส์ไวเท่านี้มาก่อน และด้วยรูปแบบการเล่นที่คล้ายกับไพ่บาคาร่า คือมีการแจกไพ่สองฝั่งได้แก่ เสือ กับ มังกร ส่วนเราที่เป็นผู้เล่นก็มีหน้าที่แค่แทงว่าฝั่งไหนจะชนะ หรือว่าผลจะออกมาเป็นเสมอ นอกจากนี้ในเรื่องความเสี่ยงก็ถือว่าค่อนข้างต่ำ มีอัตราแพ้ชนะอยู่ที่ 50 : 50 จึงทำให้ เสือมังกร เป็นที่นิยมไม่น้อยไปกว่าบาคาร่า และยังถูกเข้าใจผิดว่าไพ่สองอย่างนี้คืออันเดียวกัน

สิ่งที่ทำให้ไพ่ทั้งสองแตกต่างและถือเป็นจุดเด่นของ เสือมังกร เลยก็คือ การแจกไพ่แค่ฝั่งละ 1 ใบ แจกครบวัดแต้มกันทันทีไม่มีจั่วไพ่เพิ่ม กติกาง่าย ๆ คือฝั่งไหนได้แต้มมากกว่าก็ชนะไปแค่นั้น ไพ่ชนิดนี้ก็เลยกลายเป็นไพ่ที่ไวที่สุดในโลก จบเกมส์ได้ภายในเวลาไม่กี่วินาที

 

ทำไมต้องเล่น เสือมังกร

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่จะหัวร้อนได้ง่ายเวลาที่เจอเหตุการณ์ไม่คาดฝันอย่างกำลังจะชนะอยู่ดี ๆ พอมีการจั่วไพ่เพิ่มกลายเป็นแพ้แล้วล่ะก็ นั่นคือจุดอ่อนสำคัญที่จะทำให้คุณเสียเงินเสียทองให้กับคาสิโนออนไลน์เพียงแค่ความหัวร้อนของตัวเอง

ทว่าปัญหานี้จะหมดไปเมื่อเล่นไพ่ เสือมังกร เนื่องจากมันใช้เวลาไม่มาก วางเดิมพันได้เร็ว เห็นกำไรได้ชัด มีอัตราจ่ายสูงถึง 8 เท่า โอกาสชนะก็มีสูง ความเสี่ยงก็ต่ำ แถมยังไม่มีการจั่วไพ่เพิ่มเข้ามาให้เสียอารมณ์ นี่จึงเป็นเหตุผลที่คุณควรเล่นไพ่ชนิดนี้ เพราะมันคือไพ่ที่ออกแบบมาให้คนอย่างคุณโดยเฉพาะ

แต่ด้วยความไวของมันก็มีข้อเสียอยู่เหมือนกันคือ หากเล่นกันแบบไม่คิดอะไรหรือไม่มีสูตรเดินเงินเข้ามาช่วย เวลาเสียก็จะทำให้เสียเร็วยิ่งขึ้น และข้อเสียอีกอย่างก็คือการวางเดิมพันมันไม่ค่อยหลากหลายเท่ากับบาคาร่า เพราะว่าใช้แค่ไพ่ 2 ใบ ดังนั้นใครที่ไม่ชอบความซ้ำซากจำเจอาจต้องเปลี่ยนไปเล่นไพ่อื่นแทน

 

วิธีเล่น เสือมังกร

การเล่นไพ่ชนิดนี้ไม่ยาก ทันทีที่เปิดเกมส์ใหม่เราจะมีเวลาประมาณ 15-40 วินาทีสำหรับวางเดิมพันว่าฝั่งไหนจะชนะระหว่าง เสือ (Tiger) กับ มังกร (Dragon) หรือจะทายว่าผลออกมาทั้งสองจะมีแต้มเท่ากันหรือเสมอ (Tie) ก็ได้ เมื่อปิดรับเดิมพันแล้ว ดีลเลอร์ จะแจกไพ่ให้ฝั่งละ 1 ใบ แล้วค่อยเปิดไพ่วัดแต้มเพื่อหาผลแพ้ชนะ

 

วิธีนับแต้ม เสือมังกร

การนับแต้มของไพ่ชนะนี้จะต่างจาก บาคาร่า คือไพ่ทุกใบมีแต้มเหมือนกันหมด ส่วนพวกดอกไพ่จะไม่มีผลต่อขนาดไพ่ ไพ่แต่ละหน้าจะมีค่าดังนี้

ไพ่ A มีค่า 1 แต้ม

ไพ่หน้าตัวเลข 2 – 10 มีค่าตามเลขหน้าไพ่

ไพ่ J มีค่า 11 แต้ม

ไพ่ Q มีค่า 12 แต้ม

ไพ่ K มีค่า 13 แต้ม

 

อัตราจ่าย เสือมังกร

การเล่นเสือมังกรจะมีอัตราจ่ายดังนี้

  1. หากวางเดิมพันฝั่ง เสือ และเสือชนะ อัตราจ่ายคือ 1 เท่า
  2. หากวางเดิมพันฝั่ง มังกร และมังกรชนะ อัตราจ่ายคือ 1 เท่าเหมือนกัน
  3. หากวางเดิมพันฝั่ง เสมอ และทั้งสองฝั่งแต้มเท่ากัน อัตราจ่ายคือ 8 เท่า
  4. หากวางเดิมพันฝั่ง เสือ หรือ มังกร แล้วผลออกมาเป็นเสมอ เสียเดิมพันครึ่งเดียว อีกครึ่งคาสิโนจะคืนให้

 

สูตรเดินเงิน เสือมังกร ที่นิยมใช้กัน

อย่างที่บอกไปแล้วว่า เสือมังกร คือเกมส์พนันที่ใช้ความไว แต่มีอัตราจ่ายที่ต่ำ และด้วยค่า House Edge ที่มีอยู่ในทุกเกมส์พนัน 3 ปัจจัยนี้ถือว่ามีความสำคัญมาก หากเราเล่นโดยไม่ใช้สูตรเดินเงินก็มีโอกาสที่จะเสียเงินเร็วด้วย แม้ว่าจะดวงดีชนะติดกันถี่ ๆ แต่ยิ่งชนะบ่อยโอกาสชนะก็จะลดน้อยลงไปตามค่า House Edge อีก

ใครที่เคยใช้สูตรเดินเงินบาคาร่ามาบ้าง หรือพอมีความรู้ บอกเลยว่าเรื่องนี้ไม่ยาก เพราะสูตรเดินเงินบาคาร่าสามารถเอามาปรับใช้กับเสือมังกรได้หมดทุกสูตร ไม่ว่าจะเป็น Martingale, Super Martingale, Winning Martingale, สูตรเดินเงิน 1324, ลาบูเซอร์ และอีกมากมาย ใครถนัดสูตรไหนก็งัดมาใช้กันได้เลย

แต่ใครที่ไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน ผมจะพาไปรู้จักกับสูตรเดินเงิน Martingale ซึ่งเป็นสูตรยอดนิยม หรือที่รู้จักกันในชื่อว่าสูตรแทงทบ และถือได้ว่าเป็นสูตรต้นแบบของอีกหลายสูตรด้วย เดี๋ยวเราจะไปดูกันครับว่ามันใช้ยังไง

 

สูตรเดินเงิน Martingale

สูตรนี้บอกก่อนว่าถ้าไม่ดวงตกจริง ๆ ยังไงก็ได้เงินกลับคืนมาแน่นอน การันตีโดยนักเดิมพันทุกระดับชั้นทั่วโลกแล้วว่า ใช้ง่าย กำไรชัวร์ หลักการก็ง่าย ๆ แค่แทงทบเข้าไปเป็นสองเท่าของตาที่เสียแค่นั้น หากเราชนะก็จะได้รับเงินที่เสียไปกลับคืนมาพร้อมกำไรอีก 1 รอบ หัวใจสำคัญของสูตรนี้นอกจากดวงแล้วก็มีแค่เรื่องเงินเท่านั้น ที่ควรจะมีไว้ให้มาก ๆ จะได้ไม่ทุนหมดก่อนที่จะได้ถอนทุนคืน

ก่อนอื่นให้แบ่งเงินทุนที่เรามีออกเป็นหน่วยลงทุน สมมติว่าวันนี้ตั้งใจเล่นสัก 1,000 บาท เราเลือกโต๊ะที่วางเดิมพันขั้นต่ำ 10 บาท ก็เอา 1,000 / 10 ก็จะได้หน่วยลงทุนทั้งหมด 100 หน่วย หากเล่นตาละ 1 หน่วย ก็จะเล่นได้มากถึง 10 ตา ตรงนี้แนะนำว่าควรจะใช้ขั้นต่ำของโต๊ะจะดีที่สุด จะได้ไม่มีปัญหาเวลาแทงทบแล้วชนเพดานสูงสุดนั่นเอง

สำหรับขั้นตอนการใช้ เราจะแบ่งการวางเดิมพันออกเป็น 5 รอบ มีวิธีการดังนี้

  • รอบที่ 1 แทง 1 หน่วย หากชนะ รอบต่อไปให้ทำซ้ำ หากแพ้ไปรอบต่อไป
  • รอบที่ 2 แทง 2 หน่วย หากชนะถือว่าจบรอบสูตร ให้กลับไปรอบที่ 1 ใหม่ หากแพ้ไปรอบต่อไป
  • รอบที่ 3 แทง 4 หน่วย หากชนะถือว่าจบรอบสูตร ให้กลับไปรอบที่ 1 ใหม่ หากแพ้ไปรอบต่อไป
  • รอบที่ 4 แทง 8 หน่วย หากชนะถือว่าจบรอบสูตร ให้กลับไปรอบที่ 1 ใหม่ หากแพ้ไปรอบต่อไป
  • รอบที่ 5 แทง 16 หน่วย หากชนะเราจะได้รับกำไรกลับมา 16 หน่วย หักทุนรอบที่ 1-4 15 หน่วย เหลือกำไร 1 หน่วย แต่ถ้ายังแพ้ก็เลิกไปก่อนครับ ถือว่าวันนี้ดวงตกขั้นสุดแล้ว

จากตัวอย่างจะเห็นได้ว่าทุนที่จำเป็นต้องมีให้เล่นถึงรอบที่ 5 อย่างน้อยต้อง 31 หน่วย บางคนอาจคิดว่าแค่ขั้นต่ำ 50 หน่วยก็ได้ แต่นั่นอาจจะไม่พอสำหรับคนที่คิดว่าอาจชนะได้ในรอบที่ 6 หรือ 7 ดังนั้นทางที่ดีควรมีติดตัวไว้สัก 100 หน่วย ถือเป็นระยะปลอดภัยและมีโอกาสทวงเงินที่เสียไปบวกกำไรสูง แต่ก็อย่าลืมนะครับว่ายิ่งเราเล่นติดต่อกันมากแค่ไหน โอกาสชนะก็จะลดน้อยลงเรื่อย ๆ เหมือนกัน