LINE : @JUAD888
×
เมื่ออยากเล่นคาสิโน ให้นึกถึง JUAD888 เว็บพนันออนไลน์ ที่มีเกมส์คาสิโนจากทุกค่าย รวมเอามาไว้ให้เล่นในเว็บเดียว SA GAMING , SEXY GAMING , PG , PRETTY GAMING และ GAMEPLAY อยากเล่นคาสิโนออนไลน์ เซ็กซี่บาคาร่า สล็อต ไฮโล เสือมังกร เกมส์ยิงปลา หรือเกมส์พนันอื่นๆ เรามีทีมงานคอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง

แบไต๋ บาคาร่า รวมเรื่องน่ารู้ก่อนเล่น

บาคาร่า เกมพนันที่เล่นง่ายแต่มีเรื่องที่หลายคนไม่รู้อีกเยอะ เพราะนักเดิมพันส่วนใหญ่มักจะให้ความสนใจแค่เค้าไพ่เป็นหลัก อย่างมากก็สูตรเดินเงิน เลยทำให้หลายคนไม่สามารถทำกำไรได้อย่างที่ควรจะเป็น แต่เชื่อหรือไม่ว่าเพียงแค่เราใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างพวกกติกา หรือว่าอัตราจ่าย กลับทำกำไรเพิ่มขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ ว่าแต่เรื่องที่จะต้องรู้มีอะไรบ้าง ไปดูกันเลยครับ

บาคาร่าคืออะไร มาจากไหน

ว่ากันว่าไพ่บาคาร่าเป็นไพ่เก่าแก่ชนิดหนึ่งที่มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 นิยมเล่นกันในอิตาลี กติกาการเล่นที่สืบทอดมาจนถึงทุกวันนี้ก็คือมีผู้เล่นอยู่ 2 ฝั่งคือ ฝั่งเจ้ามือ กับฝั่งผู้เล่น ใช้ไพ่แค่สำรับเดียวโดยให้ไพ่ J, Q, K มีค่าเป็นศูนย์แต้ม ในเวลาต่อมาไพ่นี้ได้รับความนิยมมากขึ้นจึงมีการนำเข้าไปเล่นในคาสิโนลาสเวกัสช่วงปี 1950 เมื่อมีผู้เล่นมากขึ้นจึงมีการแยกห้องแยกโต๊ะกันตามฐานะ มีการกำหนดขั้นต่ำขั้นสูงของเดิมพัน รวมไปถึงไพ่ที่ใช้เล่นมากถึง 8 สำรับ จนกลายเป็นต้นแบบของ บาคาร่าออนไลน์ ในปัจจุบัน

 

การนับแต้มไพ่และกติกาพื้นฐาน

วิธีนับแต้มไพ่บาคาร่าจะให้ไพ่ A มีค่า 1 แต้ม ส่วนไพ่ 2-9 จะมีแต้มเท่ากับหมายเลข ขณะที่ไพ่ 10, J, Q, K จะมีค่าเป็น 0 แต้ม

สำหรับการชี้ผลแพ้ชนะจะดูจากแต้มรวมของไพ่ โดยเอาแต้มไพ่แต่ละใบมารวมกันแล้วใช้เฉพาะเลขหลักหน่วยเท่านั้นมาวัด สมมติว่ารวมแล้วได้ 10 แต้ม เช่นนี้จะถือว่าไพ่บอด และฝั่งไหนที่มีแต้มรวมมากกว่าก็จะเป็นฝ่ายชนะ

 

กฎไพ่ใบที่ 3 คืออะไร ใช้ตอนไหน

ปกติแล้วการจั่วไพ่ใบที่ 3 ดีลเลอร์จะเป็นคนดูว่าตอนไหนถึงจะทำได้ เลยทำให้ผู้เล่นมือใหม่หลายคนไม่เข้าใจว่าทำไมทั้ง ๆ ที่กำลังจะชนะอยู่แล้วถึงต้องจั่วไพ่เพิ่มด้วย แต่ถ้าดูตามกติกามันจะมีเงื่อนไขการจั่วไพ่ดังนี้

  1. ถ้าฝั่งใดฝั่งหนึ่งมีแต้มรวม 8-9 แต้ม ไม่ต้องจั่วเพิ่ม ให้ใช้แต้มนั้นตัดสินกันได้เลย
  2. ถ้าฝั่งผู้เล่นได้ 6-7 แต้ม ให้อยู่เฉย ๆ แล้วไปดูฝั่งเจ้ามือ
  • ถ้าเจ้ามือได้ 6-7 แต้ม ให้ตัดสินกันได้เลย
  • ถ้าได้น้อยกว่า 6 แต้ม ให้จั่วไพ่เพิ่มอีกใบ
  1. ถ้าฝั่งผู้เล่นได้น้อยกว่า 6 แต้ม ให้จั่วไพ่เพิ่มอีก 1 ใบ จากนั้นฝั่งเจ้ามือจะจั่วไพ่เพิ่มได้ก็ต่อเมื่อ
  • ได้แต้มรวม 0-2 แต้ม
  • ได้แต้มรวม 3 แต้ม และไพ่ใบที่ 3 ของผู้เล่นไม่ใช่เลข 8
  • ได้แต้มรวม 4 แต้ม และไพ่ใบที่ 3 ของผู้เล่นอยู่ระหว่าง 2-7
  • ได้แต้มรวม 5 แต้ม และไพ่ใบที่ 3 ของผู้เล่นอยู่ระหว่าง 4-7
  • ได้แต้มรวม 6 แต้ม และไพ่ใบที่ 3 ของผู้เล่นอยู่ระหว่าง 6-7
  • ถ้าได้แต้มรวม 7 แต้ม ให้อยู่เฉย ๆ
  1. หลังจากตัดสินผลกันแล้ว ถ้าฝั่งที่เราแทงชนะก็จะได้เงิน ถ้าแพ้ก็เสียเงิน แต่ถ้าผลเป็นเสมอจะได้รับเดิมพันคืน ยกเว้นแทงเสมอแล้วผลเป็นฝั่งใดฝั่งหนึ่งชนะ แบบนี้จะเสียเงิน

อัตราต่อรอง (Baccarat Odds)

อัตราต่อรอง หรืออัตราจ่ายของบาคาร่านั้นจะมีความแตกต่างกันไปตามฝั่งที่เราวางเดิมพัน ซึ่งหลัก ๆ แบ่งได้ดังนี้

  • ถ้าเดิมพันฝั่งผู้เล่น อัตราจ่ายจะอยู่ที่ 1 เท่าไม่รวมทุน หากฝั่งผู้เล่นชนะก็จะได้เงินกลับมาอีก 1 เท่าของทุน แต่ถ้าแพ้จะเสียเงิน ยกเว้นผลเป็นเสมอถึงได้เดิมพันคืนทั้งหมด
  • ถ้าเดิมพันฝั่งเจ้ามือ อัตราจ่ายจะอยู่ที่ 0.95 เท่า เพราะอีก 0.05 เท่า หรือ 5% ของทุนจะถูกหักเป็นค่าคอมมิสชั่นให้กับคาสิโนหากเจ้ามือชนะ แต่ถ้าเจ้ามือแพ้ก็เสียเงินทั้งหมด มีแค่ออกเสมอเท่านั้นที่จะได้เงินคืน
  • ถ้าเดิมพันฝั่งเสมอ หากผลออกมาเป็นเสมอจะได้รับอัตราจ่าย 8 เท่า แต่ถ้าฝั่งใดฝั่งหนึ่งชนะจะเสียเงินเดิมพันทั้งหมด
  • ถ้าเดิมพันไพ่คู่ ไม่ว่าจะเป็นฝั่งใดก็ตาม หากทายถูกจะได้รับอัตราจ่าย 11 เท่า แต่ถ้าไม่ออกไพ่คู่ก็จะเสียเดิมพันทั้งหมดเช่นกัน

อัตราความได้เปรียบของคาสิโน

ได้เห็นอัตราจ่ายหลายคนคงรู้สึกอยากจะวางเดิมพันกันแล้วใช่ไหมครับ โดยเฉพาะฝั่งเสมอกับไพ่คู่ที่ดูเหมือนว่าจะจ่ายหนักกว่าฝั่งอื่น ๆ แต่รู้หรือไม่ว่าทุกฝั่งเดิมพันนั้นมีความได้เปรียบของคาสิโนหรือที่เรียกว่าค่า House Edge อยู่ โดยค่านี้ยิ่งต่ำเรายิ่งได้เปรียบ งั้นไปดูกันดีกว่าว่าแต่ละฝั่งคาสิโนจะได้เปรียบเรามากน้อยแค่ไหน

  • เดิมพันฝั่งผู้เล่น คาสิโนจะได้เปรียบที่ 1.2351%
  • เดิมพันฝั่งเจ้ามือ คาสิโนจะได้เปรียบที่ 1.0579%
  • เดิมพันฝั่งเสมอ คาสิโนจะได้เปรียบ 14.3596%
  • เดิมพันไพ่คู่ คาสิโนจะได้เปรียบ 10.3614%

จากค่าดังกล่าวจะเห็นได้ว่าฝั่งเสมอคือจุดที่คาสิโนได้เปรียบมากที่สุด ถึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงกล้าจ่ายให้หลายเท่า ขณะที่ฝั่งเจ้ามือเป็นจุดที่ได้เปรียบน้อยที่สุด ก็เลยต้องมีการหักค่าคอมมิชชั่นเพื่อเป็นรายได้ให้กับคาสิโน สรุปก็คือยิ่งจ่ายมากแค่ไหน เรายิ่งมีโอกาสชนะน้อยแค่นั้น จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมการเล่นบาคาร่าจำเป็นต้องใช้สูตรเดินเงินคู่กัน นั่นก็เพราะจะช่วยเพิ่มโอกาสทำกำไรให้กับเรานั่นเอง